เทคนิคขับรถตอนกลางคืนอย่างไรให้เหมือนเซียนขับรถ

เทคนิคขับรถตอนกลางคืน

หากคุณเป็นมือใหม่ที่เพิ่งขับรถ หรือเพิ่งได้ใบขับขี่มาหมาดๆ ซึ่งเชื่อว่าคุณอาจจะไม่ได้มั่นใจในการขับขี่ของคุณมากขนาดนั้น ทำให้คุณกล้าที่จะขับรถตอนกลางวันมากกว่าตอนกลางคืน แต่ถ้าเจอสถานการณ์ฉุกเฉินที่คุณบังคับให้คุณต้องขับรถตอนกลางคืนละ คุณจะต้องขับรถอย่างไร วันนี้เรามีเทคนิคการขับรถตอนกลางคืนมาฝาก รับรองว่าทำตามแล้วเซียนแน่นอน

6 เทคนิคขับรถตอนกลางคืนอย่างไรให้เซียน

1. ขับรถให้มีสติ

อย่างแรกเลยของการขับรถไม่ว่าจะตอนกลางวันหรือตอนกลางคืน คุณควรเอาสติมาด้วยทุกครั้ง ยิ่งถ้าต้องขับรถตอนกลางคืนด้วยละก็ สติยิ่งต้องมีใหญ่เลย เนื่องจากทัศนวิสัยในการขับนั่นยากกว่าตอนกลางวัน ความืด และไฟส่องสว่างที่ไม่เพียงพอ หรือหากเลวร้ายไปกว่านั้นก็คือ ขับรถแล้วฝนตกตอนกลางคืน ยิ่งต้องมีสติกว่าเดิมอีก

2. ใช้ไฟสูงตอนจำเป็นเท่านั้น

หลายคนคงเคยประสบปัญหา ขับรถแล้วเจอรถข้างหลังเปิดไฟสูง ซึ่งทำให้การขับรถของคุณเป็นอุปสรรค แถมแสบตา สร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนผู้ใช้รถใช้ถนนอีกด้วย แต่ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรใช้ไฟสูงพร่ำเพรื่อ โดยเฉพาะเมื่อมีรถคันอื่นอยู่ร่วมบนถนน เพราะจะเป็นการรบกวนการขับขี่และการมองเห็นของผู้อื่นนั่นเอง

3. เว้นระยะห่างจากคันหน้าให้พอดี

ข้อนี้ไม่ว่าจะขับรถช่วงเวลาไหนๆ ก็ควรเว้นระยะห่างให้พอดี แต่ถ้าเป็นช่วงกลางคืน ยิ่งต้องทิ้งระยะให้ห่าง เพราะด้วยข้อจำกัดของแสงไฟหน้ารถ รวมถึงไฟเบรกของรถคันหน้าอาจไม่ทำงาน หากเกิดการเบรกกะทันหันอาจทำให้เราหยุดรถไม่ทันและชนท้ายรถคันหน้าได้ง่ายๆ

4. ระวังรถจอดข้างทาง

เนื่อด้วยวิสัยทัศน์ที่ค่อนข้างมืด อาจทำให้คุณไม่ได้สังเกตรถที่จอดข้างทาง และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นในระหว่างขับรถได้ ดังนั้นทางที่ดีควรสังเกตรถข้างทางอยู่เสมอ ในส่วนของรถที่จอดข้างทางก็ควรเปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อให้ง่ายต่อการสังเกต ลดการเปิดอุบัติเหตุไปได้เยอะแน่นอน

5. ระบบไฟต้องใช้งานได้ปกติ

ระบบไฟต่างๆทั้งภายในรถยนต์ หรือภายนอกรถก็ควรใช้งานได้ปกติ เพราะหากใช้งานได้ไม่ปกติ อาจเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ อย่างเช่น หากไฟเบรคของคุณเสีย เมื่อคุณเบรครถข้างหลังที่ตามคุณมาอาจไม่รู้ว่ารถของคุณเบรก และอาจทำให้เกิดการชนได้นั่นเอง

6. เตรียมร่างกายให้พร้อม

นอกจากรถจะพร้อมแล้ว ผู้ขับขี่ก็ควรเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมขณะขับรถตอนกลางคืนเช่นกัน โดยควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อป้องกันการหลับใน แต่หากใครที่รู้สึกง่วง แนะนำให้จอดรถพักงีบก่อนสักครู่ เมื่อรู้สึกดีขึ้นแล้วจึงค่อยขับรถต่อ